อย่าลืมว่า…ไม่มีใครควรต้องซ่อนตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
Pride Month ในเดือนมิถุนายน เป็นช่วงเวลาที่ทั่วโลกร่วมเฉลิมฉลองความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วมโดยปราศจากอคติ การแสดงจุดยืนสนับสนุน เป็นแนวร่วมกับกลุ่ม LGBTQ+ หรือผู้มีความหลากหลายทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นเลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กชวล ทรานส์ หรือเพศทางเลือกอื่น ๆ
สำหรับชาว LGBTQ+ นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะได้ร่วมยินดีไปกับการเติบโตขึ้นทุกวันของชุมชนที่ประกอบด้วยผู้คนที่มีเพศวิถีหรืออัตลักษณ์ทางเพศแตกต่างออกไปจากที่ “ค่านิยมสังคมดั้งเดิม” กำหนดไว้ ในแง่มุมขององค์กรและธุรกิจต่าง ๆ Pride Month เป็นสิ่งย้ำเตือนว่าเราต้องเร่งมือในการสร้างพื้นที่ทำงานที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน ไม่ใช่แค่ในเดือนนี้ แต่ตลอดปีและตลอดไป
“สิทธิของกลุ่ม LGBTQ+ คือสิทธิมนุษยชน แมนพาวเวอร์กรุ๊ปมุ่งมั่นเพื่อความเท่าเทียมของทุกคน”
โจนาส ไพรซ์ซิ่ง ประธานและ CEO แมนพาวเวอร์กรุ๊ป
แมนพาวเวอร์กรุ๊ปทำงานกับลูกค้าหลายแสนรายทั่วโลก โดยเราหวังอย่างยิ่งว่าจะเป็นแรงผลักดันให้กลุ่มลูกค้าและพันธมิตรของเราได้ร่วมกันทำความฝันในการสร้างสังคมที่เท่าเทียมและโลกที่ทุกคนเคารพในความหลากหลายทางเพศขึ้นมาด้วยกัน และนี่คือ10 แนวทางการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่จะนำสู่แผนปฏิบัติที่ชัดเจนและทำได้จริง ที่แมนพาวเวอร์กรุ๊ปอยากมาแนะนำ
1.เรียนรู้และศึกษา
ศึกษาแนวทางปฏิบัติจาก Standards of Conduct บัญญัติโดยคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ที่สะท้อนแนวคิดของบริษัทนับร้อยจากหลากหลายภาคธุรกิจ โดยเป็นแนวทางปฏิบัติที่แนะนำวิธีการสร้างความเคารพและยกระดับการสนับสนุนสิทธิของชาว LGBTQ+ ในที่ทำงาน ตลาดธุรกิจ และชุมชน
2. สนับสนุนการสร้างนโยบาย DEIB
DEIB ย่อมาจาก D=Diversity หรือความหลากหลาย E= Equality หรือความเท่าเทียม I=Inclusion หรือการอยู่ร่วมกัน B=Belonging หรือการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม โดยนโยบาย DEIB ควรแสดงถึงจุดยืนที่ชัดเจนของบริษัทในการสนับสนุนความหลากหลายทางเพศวิถีแบบปราศจากอคติหรือข้อจำกัดใด ๆ ซึ่งควรจะระบุถึงขอบเขตรับผิดชอบของทั้งตัวบริษัทและพนักงาน หากเกิดกรณีที่นโยบายนี้ถูกละเมิด โดยบริษัทนานาชาติควรต้องมีการออกยุทธศาสตร์ที่เป็นสากล ในการขับเคลื่อนแนวคิดความเท่าเทียมและการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมต่อกลุ่ม LGBTQ+ อย่างไรก็ตาม พึงระวังไว้ว่าแนวคิดดังกล่าวอาจจะยังไม่ได้ถูกยอมรับในบางภูมิภาคหรือตลาดบางส่วน
3. ทุกคนในองค์กรทำความเข้าใจร่วมกัน
ให้พนักงานและผู้บริหารทำความเข้าใจร่วมกัน รวมถึงให้คำมั่นในการพัฒนานโยบาย DEIB ต่อไป ให้ความสำคัญกับ soft skills อย่างด้านการเปิดใจ การมีความเห็นอกเห็นใจ หรือการให้ทุกคนเข้าถึงมุมมองหรือทัศนคติที่กว้างขวางขึ้น โดยองค์กรควรมีการจัดอบรมพนักงานและฝ่ายบริหารเกี่ยวกับนโยบาย DEIB เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนมีความเข้าใจนโยบายตรงกัน และสร้างแรงจูงใจให้แปรความมุ่งมั่นเป็นกรอบการปฏิบัติที่ชัดเจน
4. ใช้เทคโนโลยีมาเป็นส่วนเสริมสร้างแนวทางปฏิบัติที่ดี
โลกหมุนไปข้างหน้าเสมอ ตอนนี้เรามีเทคโนโลยีที่พร้อมหนุนนำนโยบาย DEIB ของบริษัทคุณ ด้วยการช่วยวิเคราะห์ข้อมูล ช่วยให้สามารถระบุปัญหาและลดอคติ เพิ่มความโปร่งใสและความชัดเจน ตลอดจนช่วยในด้านการอบรมพนักงานได้ด้วย โดยองค์กรต่าง ๆ สามารถดาวน์โหลด Diversity, Equity and Inclusion 4.0 toolkit ของสภาเศรษฐกิจโลก เพื่อเพิ่มโอกาสที่เปิดกว้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี
5. สร้างวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันกับความหลากหลาย
สถานที่ทำงานที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน ที่ที่ผู้คนจากหลากหลายพื้นเพหรือภูมิหลัง สามารถรู้สึกปลอดภัยในการแสดงตัวตน ได้รับการยอมรับและให้ค่าจากคนรอบข้าง ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่การทำตัวกลมกลืนกันไปให้อยู่กันได้ แต่เป็นการอยู่ร่วมกันบนพื้นฐานของความเข้าใจและน้อมรับในความหลากหลายทั้งเชิงความคิด ค่านิยม และความเชื่อโดยแท้จริง ซึ่งหากมุ่งมั่นที่จะ “เปลี่ยน” วัฒนธรรมองค์กรให้เป็นมิตรและหยิบยื่นโอกาสที่เท่าเทียมกับพนักงาน LGBTQ+ บริษัทของคุณอาจต้องทำมากกว่าการคิดแค่โปรแกรมหรือโครงการเล็ก ๆ แต่ต้องทำตั้งแต่การสร้างฐานความเข้าใจให้แข็งแรง ด้วยการสนับสนุนกลุ่มผู้สมัครที่หลากหลายสำหรับตำแหน่งบริหารหรือบอร์ด รวมทั้งอบรมและสร้างแรงจูงใจให้แก่พนักงานและผู้จัดการ ให้เข้าใจความหมายที่แท้จริงของการอยู่ร่วมกันกับความหลากหลาย
6. แต่งตั้งผู้นำที่มีคุณสมบัติ 3 ประการ
ประการแรก คือ ใฝ่รู้ ประการที่สอง อ่อนน้อมถ่อมตน พร้อมยอมรับเมื่อกระทำผิดพลาด และประการที่สาม มีความกล้าที่จะเริ่มลงมือทำสิ่งใหม่ พร้อมต่อสู้เมื่อเกิดความอยุติธรรม การสร้างทีมผู้นำที่ประกอบไปด้วยคุณสมบัติทั้งสามนี้ จะเป็นจุดสำคัญในการผลักดันนโยบาย DEIB ไปข้างหน้า ซึ่งการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรจะมาจากระดับบนหรือทีมผู้นำที่ดีนั่นเอง
7. สร้างเครือข่ายสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+
ในการที่นโยบายสนับสนุนสิทธิ LGBTQ+ จะประสิทธิผล และช่วยให้พนักงาน LGBTQ+ อยากอยู่กับบริษัทของคุณต่อไป ที่องค์กรต้องทำคือการสนับสนุนการสร้างเครือข่ายและดำเนินนโยบายอย่างชัดเจน โดยอาจเริ่มจากกลุ่มเล็ก ๆ เช่น ให้โอกาสพนักงาน LGBTQ+ สามารถสร้างกลุ่มสตาฟของตัวเอง หรือ ให้โอกาสพวกเขาในการทำกิจกรรมร่วมกันนอกเวลางานเพื่อเสริมสร้างสัมพันธ์
8. นำความเปลี่ยนแปลงสู่ชุมชน
เชื่อมสัมพันธ์กับกลุ่ม LGBTQ+ ในชุมชน เช่น ศูนย์เยาวชน ศูนย์ชุมชน กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิ LGBTQ+ หรือกลุ่มองค์กรการกุศลต่าง ๆ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจขององค์กรในการขับเคลื่อนเพื่อสิทธิของพนักงานชาว LGBTQ+ และนี่ยังเป็นวิธีที่ดีที่จะช่วยให้องค์กรเข้าใจถึงอุปสรรคหรือปัญหาที่พนักงาน LGBTQ+ เผชิญได้มากขึ้น ซึ่งจะนำองค์กรไปสู่การสร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคมไปในทิศทางที่ดีขึ้นด้วย
9. รับฟังและขอโทษให้เป็น พร้อมเรียนรู้จากข้อผิดพลาด
ในการดำเนินนโยบายเหล่านี้ มีโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดขึ้นเสมอ หากว่าองค์กรของคุณต้องเผชิญกับการถูกกล่าวหาว่าปฏิบัติไม่เป็นธรรมต่อพนักงาน LGBTQ+ ทางแก้ไขที่ถูกต้องคือการตอบสนองต่อปัญหาด้วยความเมตตา ความใส่ใจ และความอ่อนน้อม ให้ทุกคนรู้สึกว่าปัญหาของพวกเขาถูกรับฟัง และได้รับคำขอโทษอย่างจริงใจจากองค์กร โดยยึดเอาพวกเขาเป็นตัวตั้ง
10. ตั้งเป้าหมายและติดตามผล
ควรมีการจัดทำรายงานความคืบหน้าของนโยบาย DEIB ให้ผู้บริหารองค์กรรับทราบเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง โดยมีการติดตามผลเกี่ยวกับระดับการมีส่วนร่วมและประสบการณ์ที่พนักงานได้รับจากนโยบาย ตลอดจนมีการมอบหมายให้พนักงานระดับอาวุโสให้กำกับดูแลการอบรมและการดำเนินนโยบาย DEIB ด้วย การสร้างมาตรฐานและมาตรวัด จะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ความสำเร็จ
แมนพาวเวอร์กรุ๊ป เชื่อมั่นเสมอว่าภาคธุรกิจ ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม และพึงเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสังคมให้ดีขึ้น ในแง่มุมขององค์กร ความรับผิดชอบนี้หมายถึงการสร้างสถานที่ทำงานที่เปิดกว้างต่อความหลากหลาย และ การจ้างงานพนักงานโดยปราศจากอคติใด ๆ
มาร่วมมือกันในวันนี้ ให้ธงสีรุ้งโบกสะบัดอย่างสง่างามในออฟฟิศของคุณ
เปิดตัวเอง… เปิดใจ… เปิดพื้นที่ให้ทุกเพศวิถีแสดงออกได้อย่างเท่าเทียม
Source :Promoting Respect for LGBTQ+ Employees | ManpowerGroup