ข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย
บริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลก
แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ชี้ผลกระทบโควิด แนะใช้ 3R รีบูตทักษะยุคดิจิทัล
คาดการณ์ว่าในอีก 1 ปีต่อจากนี้จะเห็นภาพความเร็วในการฟื้นตัวที่ความเร็วสองระดับในรูปแบบตัวเค สะท้อนระดับทั้งความต้องการสูง-ความต้องการลดลง
จากสถานการณ์ความผันผวนทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19ในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อวิถีการทำงานในรูปแบบการทำงานทางไกลที่สอดคล้องกับวิถีความปกติใหม่(New Normal) โดยจะได้เห็นเพิ่มมากขึ้นทั้งจากฝั่งนายจ้างและแรงงาน แมนพาวเวอร์กรุ๊ปเผยผลกระทบโควิดในตลาดงาน แนะใช้หลักเดินเครื่องรีบูตทักษะรับยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงเร็ว พร้อมชี้สัญญาณอีก1ปี การฟื้นตัวแบ่งเป็น2กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีความต้องการสูง และกลุ่มที่มีความต้องการลดลง
มร.โจนาส ไพรซิงประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แมนพาวเวอร์กรุ๊ป เปิดเผยว่าการเปลี่ยนแปลงด้านแรงงานครั้งใหญ่ซึ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ซึ่งเป็นวิกฤตด้านสุขภาพและพัฒนาไปสู่ภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจกับสังคม โดยในช่วงแรกภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการบริการ,การเดินทางและแม้แต่การผลิตเกิดภาวะหยุดชะงักในชั่วข้ามคืน ขณะที่อุตสาหกรรมอื่นๆ ได้แก่ เทคโนโลยี,การดูแลสุขภาพ,โลจิสติกส์และการค้าปลีก มีความต้องการด้านแรงงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ในเวลาเดียวกัน องค์กรต่างๆ มีการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานเป็นรูปแบบดิจิทัลมากขึ้น ในขณะที่ประชากรร้อยละ 93 มีวิธีการทำงาน รูปแบบการใช้ชีวิตและการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ทั้งนี้จากการคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นดังกล่าวข้างต้นกลับเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์อย่างมีนัยสำคัญ
บทบาทของเทคโนโลยีดิจิทัลนับเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่มีการคาดการณ์มาก่อน ซึ่งสนับสนุนให้เกิดการสร้างงานและผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อวิถีชีวิตของผู้คนและสร้างโลกที่เชื่อมโยงกันมากขึ้น มีความยืดหยุ่นด้านกำลังคน รวมถึงการเรียกร้องให้เกิดการผสมผสานระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานที่ดีขึ้น การมีทักษะที่สูงขึ้นและการมีอิสระในการทำงานมากขึ้น ทั้งในแง่ของวิธีการ,เวลาและสถานที่งาน ทั้งหมดเป็นผลจากการระบาดไวรัสใหญ่ครั้งนี้
จากภาพข้างต้นที่เรียกว่าTHE EMERGENCE OF THE K RECOVERYหรือ การฟื้นตัวในรูปแบบตัวเคทั้งนี้จากผลการวิจัยมีการคาดการณ์ว่าในอีก1ปีต่อจากนี้จะเห็นภาพและความเร็วในการฟื้นตัวในสองระดับ โดยอุตสาหกรรมบางอย่างและผู้คนจะกลับมาฟื้นตัวเร็วขึ้นและดีขึ้นได้แก่ บุคคลที่อยู่ในภาคธุรกิจที่มีการเติบโตและมีทักษะซึ่งเป็นที่ต้องการสูง อาทิ นักวิเคราะห์การจัดการและองค์กร ผู้เชี่ยวชาญด้านการสนับสนุนทางโลจิสติกส์และคลังสินค้า, ผู้จัดการโครงการ, ช่างซ่อมเครื่องจักรวิศวกรหุ่นยนต์, วิศวกรเทคโนโลยีการเงิน,พันธมิตรทางธุรกิจด้านทรัพยากรมนุษย์, นักพัฒนาแอปพลิเคชั่น นักวิเคราะห์ข้อมูลหรือผู้เชี่ยวชาญด้านกระบวนการอัตโนมัติ เป็นต้น ในขณะที่บางส่วนงานมีความเสี่ยงและมีความต้องการกำลังลดลงอาทิพนักงานให้ข้อมูลลูกค้าและพนักงานบริการลูกค้า,ช่างติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม,คนงานก่อสร้างเสมียนกรอกข้อมูล,ผู้จัดการฝ่ายบริการธุรกิจและธุรการ,พนักงานบัญชี การจัดทำบัญชีและบัญชีเงินเดือนหรือพนักงานธนาคารเป็นต้น ทั้งนี้สิ่งสำคัญในการรับมือการเปลี่ยนแปลงในยุคNew Normalนี้ การพัฒนาทักษะเพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงานเป็นหัวใจสำคัญ,ความสามารถในการปรับตัวทุกสถานการณ์การเปลี่ยนแปลง,การคิดเชิงวิพากษ์และการวิเคราะห์ความคิดสร้างสรรค์หรือความคิดริเริ่มล้วนเป็นส่วนเสริมรองรับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้
จากการสอบถามนายจ้างมากกว่า26,000ราย ในกว่า40ประเทศ ระบุว่า วิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อแผนการแปลงกระบวนการทำงานเป็นรูปแบบดิจิทัลและระบบอัตโนมัติอย่างไร ในส่วนหน้าที่การทำงาน,อุตสาหกรรมและภูมิศาสตร์ใดมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด ทางด้านการจัดลำดับความสำคัญของฝ่ายทรัพยากรมนุษย์เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรอันเป็นผลมาจากวิกฤตดังกล่าว ส่วนนายจ้างคิดอย่างไรเกี่ยวกับแผนการเพิ่มทักษะในปัจจุบันและอนาคต
ผลวิจัยสะท้อนให้เห็นถึงการปรับกระบวนการทำงานเข้าสู่ระบบดิจิทัลที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวเพื่อการผสมผสานที่ดีที่สุดระหว่างบุคลากรที่มีความสามารถและเทคโนโลยีทั้งในส่วนหน้าและส่วนกลาง องค์กรจึงมีความซับซ้อนมากขึ้นเนื่องจากกำลังเตรียมพร้อมโดยการมุ่งเน้นการวางแผนด้านแรงงาน และความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานที่เพิ่มขึ้นเพื่อจัดการกับความไม่แน่นอนและความเสี่ยง การค้นพบครั้งนี้ทำให้เห็นว่าองค์กรขนาดใหญ่ที่มีจำนวนพนักงาน250รายขึ้นไปวางแผนที่จะปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานเป็นรูปแบบดิจิทัลมากขึ้นและมีการจ้างงานมากที่สุด ในทางกลับกัน องค์กรขนาดเล็กได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการระบาดใหญ่ และมีความเป็นไปได้ว่าจะระงับแผนการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานเป็นรูปแบบดิจิทัลและลดแผนการจ้างงาน สิ่งที่น่าจับตามองคือ อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญที่สุดจากภาวะวิกฤตในช่วงเริ่มต้น ได้แก่ ภาคการผลิต,การก่อสร้าง และการค้าปลีก ได้ถูกแยกออกจากกัน อุตสาหกรรมบางอย่างใช้ระบบอัตโนมัติและระบบดิจิทัลเพื่อที่จะปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่อุตสาหกรรมอื่นๆ ใช้วิธีการรอ สังเกตการณ์และระงับแผนดังกล่าว
จากผลวิจัยพบว่า ภาวะวิกฤตด้านสุขภาพ,เศรษฐกิจและสังคมทำให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลมีความสำคัญมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา เนื่องจากบริษัทต่างๆ ต้องใช้แนวทางการให้ความสำคัญแก่บุคลากรเป็นอันดับแรก และเห็นว่าฝ่ายทรัพยากรบุคคลเป็นรากฐานของกลยุทธ์ทางธุรกิจ สำหรับปี พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป ผู้นำฝ่ายทรัพยากรบุคคลเล็งเห็นว่าสุขภาพและสุขภาวะของพนักงานเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยมีความสำคัญเป็นสองเท่าในลำดับความสำคัญถัดจากการสร้างรูปแบบการทำงานใหม่และการผลักดันให้มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มทักษะ,การเรียนรู้และการพัฒนา ผู้นำฝ่ายทรัพยากรบุคคลร้อยละ 63 เห็นว่าสุขภาพและสุขภาวะของพนักงานเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
นอกจากนี้ ผลการวิจัยสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบของโควิด-19 ต่อการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานเข้าสู่ระบบดิจิทัล โดยทักษะด้านอารมณ์และสังคม + ทักษะด้านเทคนิค = พลังของมนุษย์ ในขณะที่องค์กรต่างๆ กำลังเปลี่ยนแปลงและปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานเป็นรูปแบบดิจิทัลอย่างรวดเร็วและในวงกว้าง ความต้องการด้านทักษะก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ภายในปี พ.ศ.2568มนุษย์และเครื่องจักรจะแยกหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับงานออกจากกันร้อยละ50-50โดยจะเกิดงานใหม่97ล้านตำแหน่งในภาคส่วนAI (ปัญญาประดิษฐ์),เศรษฐกิจสีเขียวและเศรษฐกิจใส่ใจ ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราคือการนำทุกคนไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้และปกป้องบุคคลที่ชีวิตได้รับผลกระทบจากความล่าช้าในการสร้างงาน
การเรียนรู้เพื่อที่จะเรียนรู้: แนวโน้มการเรียนรู้แบบกระชับการฝึกอบรมมีแนวโน้มว่าจะสั้นลงและเกี่ยวข้องกับบทบาทและหน้าที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ทางด้านพนักงานต้องการเนื้อหาที่มีความเกี่ยวข้องที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและมีความเกี่ยวข้องกับตนเองทั้งในปัจจุบันและในอนาคต
การเริ่มใหม่เพื่อพัฒนาทักษะ-หลักการ3อาร์(The 3 Rs):การเริ่มใหม่(Renew),การปรับทักษะใหม่(Reskill),การจัดสรรบุคลากรใหม่(Redeploy)จะเข้ามาช่วยในส่วนการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานเป็นรูปแบบดิจิทัล องค์กรต่างๆ ต้องหาวิธีการใหม่ๆ ในการทำสิ่งเก่าๆ หรือวิธีการใหม่ๆ ในการทำสิ่งใหม่เนื่องจากทั้งธุรกิจดั้งเดิมและธุรกิจใหม่ต่างก็ต้องปรับตัว ใช้นวัตกรรมดิจิทัลและใช้ประโยชน์จากโอกาสทางระบบออนไลน์ให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ ผลการวิจัยที่แมนพาวเวอร์กรุ๊ปได้จัดทำขึ้นเป็นการสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงและการคาดการณ์ที่เกิดขึ้นหลังวิกฤตโควิดในปีแรกสู่ปีถัดไป ซึ่งทักษะการทำงานนับเป็นหัวใจสำคัญที่นายจ้างต้องการและลูกจ้างต้องพัฒนาทักษะรองรับการเปลี่ยนแปลงที่หลายๆ สิ่งเกินการคาดการณ์ การช่วยให้ผู้คนเตรียมทักษะล่วงหน้า เพิ่มทักษะและปรับทักษะใหม่สำหรับบทบาทซึ่งเป็นที่ต้องการในการพัฒนาทักษะครั้งนี้ยังคงเป็นความท้าทายของทศวรรษนี้
ซึ่งมีความสำคัญก่อนการระบาดใหญ่และมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน เพื่อสร้างสถานที่ทำงานที่ดียิ่งขึ้นโดยเป็นสถานที่ที่ทุกคนสามารถปลดปล่อยศักยภาพของมนุษย์อย่างเต็มที่และมีส่วนร่วมในความเจริญก้าวหน้าอย่างเท่าเทียมกัน ดังนั้น ถึงเวลาสำคัญที่ทุกองค์กรและบุคลากรต้องพร้อมรับมือกับทุกการเปลี่ยนแปลง
ที่มา : bangkokbiznews
****************************************************************************************************
เกี่ยวกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย
แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกในการจัดหาแรงงานเชิงนวัตกรรม นำเสนอบริการด้านต่างๆ แก่ผู้ประกอบการในส่วนของกระบวนการจ้างงานและการทำธุรกิจครบวงจร รวมทั้งการสรรหาว่าจ้างพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว และพนักงานแบบมีสัญญาจ้าง, การประเมินผลและการคัดเลือกพนักงาน, การฝึกอบรม, การช่วยหางานใหม่ (Outplacement), การรับเหมาจ้างงาน(Outsourcing) และการให้คำปรึกษา แมนพาวเวอร์ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการกว่า 400,000 รายต่อปี ซึ่งประกอบด้วยบริษัทขนาดย่อมและขนาดกลางในทุกประเภทธุรกิจ รวมทั้งบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุด
ติดต่อฝ่ายการตลาด:
แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยข่าว | แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย
บริษัท แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาบุคลากรและที่ปรึกษาด้านแรงงาน นำเสนอบริการสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในโลกของการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจุบันแมนพาวเวอร์กรุ๊ปมีจำนวน 80 ประเทศทั่วโลก
โทร. 02-171-2345
อีเมล : [email protected]
www.manpowerthailand.com