ไม่ใช่แค่กลุ่ม LGBTQ+ เท่านั้น แต่ความหลากหลายในที่นี้มีทั้งอายุ เชื้อชาติ การศึกษา ที่แมนพาวเวอร์ให้ความสำคัญอย่างเท่าเทียมและไม่ยอมทิ้งใครไว้ข้างหลัง
วันที่ 3 มิถุนายน 2567 คุณวณิชชา วิริยะกิจพัฒนา ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลและการพัฒนาองค์กร แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย ผู้นำธุรกิจด้านให้บริการจัดหาคน-จัดหางานระดับโลก ได้ให้เกียรติขึ้นกล่าวในฟอรัมงาน BANGKOK PRIDE FORUM 2024 โดยทาง The Betterได้จัดในฟอรัมที่ชื่อว่า “LGBTQIAN+ เข้าใจพลังของความหลากหลายที่มีในทุกคน” ซึ่งหัวข้อที่คุณวณิชชาได้พูดคือ “พลัสพลังองค์กร ด้วยพลัง LGBTQIAN+” เกี่ยวกับการยอมรับผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศและเข้าใจตัวตนของพวกเขาจะลบล้างข้อจำกัดที่เกิดจากการเหมารวมลักษณะทางเพศ รวมถึงการขจัดการเหมารวมจะปลดปล่อยให้ทุกคนบรรลุศักยภาพได้อย่างเต็มที่โดยปราศจากข้อจำกัดอันแบ่งแยกของสังคม
โดยคุณวณิชชา ได้เกริ่นให้ทุกคนทำความเข้าใจเกี่ยวกับแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทยว่า “เนื่องจาก แมนพาวเวอร์กรุ๊ป เป็นองค์กรที่จัดหาคนเข้าตลาดแรงงาน ซึ่งในแต่ละปีเราสามารถจัดหาคนเข้าตลาดแรงงานได้กว่า 20,000 คน ดังนั้นเราสามารถพูดได้ว่าตลาดแรงงานวันนี้มีความหลากหลายเยอะขึ้นมาก ความหลากหลายในที่นี้ไม่ได้มีเพียงแค่ทางด้านเพศเท่านั้นแต่ยังรวมถึงเชื้อชาติ ศาสนา การศึกษาด้วย และยังรวมถึงบุคลิกภาพอีกด้วย”
คุณวณิชชา กล่าวต่อว่า “แม้ในปัจจุบันสังคมไทยมีการเปิดรับ และเปิดกว้างมากขึ้นก็จริง แต่เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ที่มาของความเหลื่อมล้ำหรือความไม่เท่าเทียมมาจากหลายปัจจัยมาก อย่างแรกมาจากบรรทัดฐานของเรา ยกตัวอย่างเช่นเราเรียนรู้และเรารับรู้มาว่าตำแหน่ง หรือหน้าที่นี้จะต้องเป็นคนประเภทไหนเท่านั้นที่จะมาทำงาน ปัจจัยอย่างที่สองเกิดจากอคติ เพราะความเหลื่อมล้ำมีอยู่ทุกภาคส่วน เช่น หากเราอยากได้วิศวกรเราจะคิดถึงผู้ชาย หากอยากได้แนวบริการเราก็อยากได้ผู้หญิง หรือแม้กระทั่งว่าตอนเราไปสัมภาษณ์งาน ถ้าเราแต่งตัวเป็นตัวเองมากเราก็จะถูกตัดสินได้ การอคติบางอย่างมันเกิดขึ้นในตลาดแรงงานไม่ได้แค่ LGBTQIAN+ เท่านั้น“
ความเหลื่อมล้ำที่คุณวณิชชากล่าวข้างต้นองค์กรสามารถปรับตัวได้โดยคุณวณิชชาแนะนำว่า "ก่อนที่จะพูดถึงองค์กร ขวัญอยากให้ทุกคนมองมาที่ตัวเองก่อน เริ่มจากตัวเราเองก่อน ตัวเราต้องรับรู้ว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาธรรมชาติเกิดขึ้นกับใครก็ได้มันไม่ใช่เรื่องผิดแปลกเลย สิ่งสำคัญคือเราต้องเคารพตัวเอง เคารพสิ่งที่เราเป็น และเราต้องเคารพคนอื่นด้วย ในเมื่อเราอยากใช้สิทธิ์ของเรา เราต้องเคารพสิทธิ์คนอื่น และเมื่อเราเคารพตัวเองแล้วเราต้องมีความมั่นใจในตัวเองด้วยว่าสิ่งที่เราทำมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสม และเมื่อไหร่ไปสู่ความมั่นใจแล้ว เราไม่โอ้อวด แสดงออกอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนและถูกกาลเทศะ”
คุณวณิชชาแนะนำจะต้องทำอย่างไรให้คนที่มีความหลากหลายได้รับการยอมรับมากขึ้น คุณวณิชชาแนะว่า "ให้มองว่าเราได้รับการยอมรับอยู่แล้วค่ะ แต่สิ่งสำคัญคือเรารับรู้มันอย่างไรโดยเริ่มต้นที่ตัวเรา ต่อมาคือสถาบันครอบครัว หน่วยที่ใกล้ชิดกับบุคคลมากที่สุดต้องเปิดใจและเข้าใจยอมรับกันและกัน ขวัญเองโชคดีนะคะที่ครอบครัวเข้าใจในสิ่งที่เราเป็นเรา มองสิ่งที่เราเป็น ครอบครัวของแฟนก็เข้าใจเช่นกัน ดังนั้นควรจะคิดว่าปัจจัยที่สองที่สำคัญคือสถาบันครอบครัวที่ทำให้เรายอมรับตัวเองและมีความมั่นใจมากขึ้น"
"ปัจจัยที่สามปัจจัยขององค์กรเรา ในฐานะที่เป็นเพื่อนร่วมงาน ในฐานะที่เป็นหัวหน้างาน เราจะต้องมีความเปิดกว้างในเรื่องนี้ดูที่ความสามารถของเขาเรา ไม่ได้ดูที่ว่าคนคนนี้มีพฤติกรรมที่ดูเหมือนจะก้าวร้าวแบบนี้โตไม่ได้หรอก อันนี้เรียกว่าอคติส่วนบุคคล หากเราจะสนับสนุนเรื่องความเหลื่อมล้ำให้ลดลง ปัจจัยนี้ ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญ เริ่มจากที่คุณที่เป็นเพื่อนร่วมงานคุณ เหยียดเพศหรือไม่ ถ้าวันนี้จะต้องมีการประเมินผลงาน ในฐานะหัวหน้างานคุณจะประเมินเขาจากผลงานหรือประเมินจากอคติส่วนบุคคล ดังนั้นหัวหน้างานจึงเป็นปัจจัยหลักในการทำให้เกิดความเท่าเทียมกันในองค์กร" คุณวณิชชากล่าว
คุณวณิชชาได้กล่าวถึงในมุมเรื่องการแสดงออก ที่จะต้องมองย้อนกลับไปที่ตัวเราต้องเคารพตัวเอง และที่สำคัญเราต้องเคารพสถานที่ด้วย การแสดงออกของคุณย่อมได้รับการสนับสนุนอยู่แล้ว แต่การแสดงออกของคุณต้องไม่ละเมิดสิทธิคนอื่นต้องมีความเคารพและมีกาลเทศะ มีความเป็นมืออาชีพ ไม่จำเป็นว่าจะต้องแสดงออกทางเรื่องการแต่งกาย แต่การแสดงออกทางด้านความคิดเห็นก็มีผลเช่นเดียวกัน
แมนพาวเวอร์ เราส่งเสริมให้คนไม่ว่าจะเลเวลอะไร อายุงานเท่าไหร่ เพศอะไร หรือพูดภาษาอะไร เราส่งเสริมให้เขาแสดงความคิดเห็น เพราะการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างและหลากหลายจะทำให้เกิดนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ ความคิดใหม่ๆ ส่งเสริมพลังบวกซึ่งกันและกันความมั่นใจมาจากข้างในเราและออกมาที่การแสดงออกของเราไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายหรือที่ความคิดทั้งหมดมันส่งเสริมให้ผลงานของเราโดยรวมดีขึ้น
คุณวณิชชายังได้กล่าวถึงการสนับสนุนจากองค์กรที่เป็นเชิงนโยบายว่า "การสนับสนุนขององค์กรคือ สนับสนุนเรื่องพื้นฐาน เช่น นโยบาย ปัจจัยขั้นแรกเวลาเราจะคัดเลือกคนเราไม่ได้เลือกปฏิบัติไม่ได้ดูที่สถาบันการศึกษา หรืออายุ เพศอะไรในฐานะองค์กรจะไม่เลือกปฏิบัติ สองเมื่อเขาเข้ามาแล้วเราก็ไม่เลือกปฏิบัติเราไม่ละเลยทุกๆ คน อย่างเช่นในแมนพาวเวอร์เมื่อเข้ามาปฐมนิเทศแล้ว การปฐมนิเทศจะมีทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ แม้ในรอบนั้นจะมีคนต่างชาติแค่คนเดียว ต้อนรับทุกคนอย่างอบอุ่น บ่มเพาะให้วัฒนธรรมองค์กร“
"นโยบายด้านสวัสดิการ เรามีประกันกลุ่ม เมื่อก่อนหากเราต้องทำประกันให้กับคู่ของเราที่เป็นสามีภรรยาเท่านั้น แต่องค์กรของเราสามารถขับเคลื่อนให้เกิดความเท่าเทียมกันตรงนี้ได้ โดยที่เราคุยกับบริษัทประกันว่าเราสามารถการันตีได้ว่าพนักงานคนนี้และคู่ของเขาเป็นคู่กันจริงๆ เป็นสิ่งที่ของเราเราช่วยผลักดันกันตรงนี้ได้เช่นกัน” คุณวณิชชากล่าว