แมนพาวเวอร์กรุ๊ปคือผู้นำในอุตสาหกรรมของเราในการตั้งเป้าหมายลดโลกร้อนตาม Science-based Targets (SBT)
ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2021 บริษัทแมนพาวเวอร์กรุ๊ปได้ประกาศปฏิบัติตาม Science-based Targets initiative หรือ SBTi ซึ่งคือแนวทางมาตรฐานการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและขับเคลื่อนการลดภาวะโลกร้อน เป้าหมายของเราคือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานให้ได้มากถึง 60% และลดการปล่อยก๊าซของบริษัทในห่วงโซ่อุปทานลง 30% ภายในปี2030 โดยเป้าหมาย SBT ถือเป็นกุญแจสำคัญในการปลกล็อกการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้แบบ 0% ภายในปี 2045 หรือเร็วกว่านั้น
“ข้อตกลงจากการประชุม COP26 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้เราประจักษ์ชัดเจนว่าภารกิจการลดภาวะโลกร้อนเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุดสำหรับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจ ภาครัฐ และผู้บริโภค” --- คุณโจนาส ไพรซ์ซิ่ง ประธานและ CEO แมนพาวเวอร์กรุ๊ป
“เราเชื่อว่าข้อสำคัญของภารกิจนี้คือการมีมาตรวัดชัดเจนขณะเดียวกันต้องมีการจัดลำดับความสำคัญและการสื่อสารเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จด้วยการน้อมนำเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกตามSBTi จะทำให้เครือข่ายของเรา ซึ่งรวมถึงพนักงานลูกค้าแคนดิเดตซัพพลายเออร์กลุ่มผู้ลงทุนและเครือข่ายชุมชนไว้วางใจในความตั้งใจทุ่มเทที่เราทำเพื่อมนุษยชาติและโลกในการมุ่งสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเหลือ0% ให้ได้ในที่สุด” คุณโจนาส ไพรซ์ซิ่งกล่าว
ความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามนโยบายนี้คือความสำเร็จล่าสุดของแมนพาวเวอร์กรุ๊ปในแผนปฏิบัติการลดภาวะโลกร้อนเพื่อที่จะสร้างมาตรฐานและลดผลกระทบแบบเต็มรูปแบบในห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดตามที่ระบุในรายงาน Working to Change the Worldซึ่งเป็นรายงานนโยบายด้าน ESG (Environment, Social, and Governance) ปี 2021
นอกจากนี้ แมนพาวเวอร์กรุ๊ปยังดำเนินการอย่างจริงจังด้านความโปร่งใสโดยจะมีการเปิดเผยข้อมูลแก่โครงการ Carbon Disclosure Project (CDP) เป็นระยะเวลาต่อเนื่องนานถึง10 ปีและเมื่อเร็วๆนี้ยังมีการปรับนโยบายให้สอดคล้องไปกับแนวทางปฏิบัติของกลุ่มงานการเปิดเผยข้อมูลด้านการเงินที่เกี่ยวกับการลดภาวะโลกร้อนหรือ Task Force of Climate-Related Financial Disclosures อีกด้วย
ที่สำคัญกว่านั้นแมนพาวเวอร์กรุ๊ปได้เข้าไปมีส่วนร่วมในกลุ่ม CEO ผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของสภาเศรษฐกิจโลกโดยได้มีการร่วมลงนามในจดหมายเปิดผนึกถึงผู้นำประเทศในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP26) เพื่อผลักดันอีกเป้าหมายสำคัญ คือการร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจในภารกิจต้านภาวะโลกร้อนนั่นเอง
“เราเชื่อว่าอนาคตที่สร้างบนพื้นฐานความร่วมมือจะสามารถสร้างผลสำเร็จในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว” --- คุณรูธ ฮาร์ปเปอร์ หัวหน้าด้านการสื่อสารและความยั่งยืนขององค์กรกล่าว
โดยเสริมว่า “การตั้งเป้าและบรรลุเป้าหมายที่พิสูจน์ได้ในเชิงวิทยาศาสตร์ เป็นยุทธวิธีที่จะทำให้เราปฏิบัติได้เร็วขึ้นและมีส่วนร่วมด้วยกันมากขึ้นในการชะลอภัยพิบัติอันน่ากลัวจากภาวะโลกร้อนที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วโลกในปัจจุบัน และยังเป็นวิธีที่จะทำให้เราสร้างงาน สร้างความต้องการในทักษะใหม่ ๆ ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูและสร้างความยั่งยืนให้โลกอนาคตที่เต็มไปด้วยโอกาสสำหรับทุกคน”
SBTi ได้ยืนยันอย่างชัดเจนโดยมีข้อพิสูจน์เชิงวิทยาศาสตร์รองรับว่าเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของแมนพาวเวอร์กรุ๊ปนั้นเป็นไปตามมาตรฐานการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่กำหนดอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียสซึ่งนับเป็นการสนับสนุนที่สำคัญยิ่งต่อภารกิจต้านภาวะโลกร้อนร่วมไปกับอีกกว่า 1,000 องค์กรชั้นนำทั่วโลก ทั้งนี้ มีบริษัทเพียง 20% ของกว่า 4,200 บริษัทในกลุ่มประเทศ G20 ที่มีการตั้งเป้าการลดก๊าซเรือนกระจกที่อ้างอิงจากข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์โดยแมนพาวเวอร์กรุ๊ปเป็นหนึ่งในนั้น