มากกว่า 1 ปี ที่ผ่านมา -

The Wolf of Wall Street - หนังสร้างแรงบันดาลใจให้นักขาย

The Wolf of Wall Street, Leonardo DiCaprio, Martin Scorsese, Jordan Belfort, Stratton Oakmont, Sales pitch, Sales tips, สร้างแรงบันดาลใจ, ให้กำลังใจ, นักขาย, นักขายมืออาชีพ, เทคนิคการขาย, งานขาย, Sales Skills

​The Wolf of Wall Street หนังตลกแนว Dark Comedy ที่กำกับโดย Martin Scorsese และได้หนุ่มหล่อตลอดกาลอย่าง Leonardo DiCarprio มารับบทนักแสดงนำในบท Jordan Belfort โบรกเกอร์หนุ่มที่ถูกขนานนามในวงการว่า “หมาป่าแห่งวอลล์สตรีท” เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เล่าถึงการขึ้นสู่จุดสูงสุดและลงสู่จุดต่ำสุดของ Belfort ยอดนักขายคนนี้

Jordan Belfort คือ ผู้ก่อตั้ง Stratton Oakmont ที่หลอกลวงนักลงทุนจนสร้างรายได้กว่า 200 ล้าน USD ด้วยวิธีง่าย ๆ คือ หลอกขายหุ้นราคาถูกแก่นักลงทุน จากนั้นปั่นราคาให้สูงขึ้น เพื่อหลอกล่อให้คนทุ่มซื้อเพิ่ม ที่เหลือก็ฟันกำไรจากราคาทุนที่แสนถูกของมัน

เส้นทางสีเทานี้ได้เบิกทางให้เขากลายเป็นเศรษฐีเงินล้านในชั่วข้ามคืน ใช้ชีวิตอย่างสุดโต่งในคฤหาสน์หรูหรา ห้อมล้อมด้วยปาร์ตี้ ผู้หญิง และยาเสพย์ติด จนก็ไปดึงดูดสายตาของ FBI และนำไปสู่ความหายนะในที่สุด

หลังจากถูกคุมขังในเรือนจำ Belfort ก็ได้กลายมาเป็นคนใหม่ที่มีความคิดที่ “เฉียบขาด” และทุกวันนี้ เขาได้เดินทางไปเพื่อพูดสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลก (บัตร sold out ทุกรอบด้วยนะเออ) แม้ว่า Belfort จะดำเนินธุรกิจที่ผิดกฎหมายมาก่อน แต่เขาก็นับเป็นพนักงานขายที่มีความสามารถขั้นเทพ การดูหนังเรื่องนี้จึงไม่ได้มีแค่ความสนุก แต่บทและเส้นเรื่องยังสอดแทรกเทคนิกการขายและการการจัดการที่เราทุกคนสามารถเรียนรู้และนำมาปรับใช้กับการทำงานได้อีกด้วย

วันนี้ Manpower ได้สรุปมาให้ทุกคนอ่านกันแล้วกับ เทคนิคที่นักขายต้องมีถ้าคุณอยากเป็น Top Salesman ! (สบายใจได้ค่ะทุกคน บทเรียนที่คัดมาทั้งหมดนี้ถูกกฎหมาย 100% และจะไม่ทำให้คุณถูกจับแน่นอน)

MP-SF-WST-900x500-4.jpg

1. "Sell me this pen"

วลียอดฮิตที่กลายเป็นคำถามที่ต้องเจอในการสัมภาษณ์อาชีพนักขาย มาจากซีนที่ Belfort กำลังฝึกทีมเซลส์ของบริษัทตัวเอง โดยหยิบปากกาขึ้นมาหนึ่งแท่ง และบอกว่า "ขายปากกานี้ให้กับฉัน" หลายคนต่างเริ่มจากการสาธยายสรรพคุณของปากกาว่ามันดีมาก อย่างนู้นอย่างนี้ สุดท้ายเขาได้ยื่นปากกาให้ Brad และ Brad ได้ตอบว่า “ช่วยอะไรอย่างสิ ช่วยเขียนชื่อตัวเองในกระดาษให้หน่อย !?” แน่นอนว่าคุณต้องใช้ปากกา ถ้าจะเขียนชื่อลงไป.. ซึ่งอันนี้กลายเป็นบทสรุปของวลีนี้เลย "ไม่ว่าจะใคร จะรวยจะจน ต่างก็มีความอยาก (Demand) ในใจของตัวเองเสมอ"

นี่คือบทเรียนข้อสำคัญข้อแรก --- สิ่งที่นักขายต้องทำ คือ การสร้าง Demand ให้ลูกค้า

MP-SF-WST-900x500-5.jpg

2. อย่าหยุดขาย

นอกจากจะดึง Demand ของลูกค้าออกมาแล้ว Belfort ยังมุ่งมั่นที่จะขายไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม จะไม่มีการวางสายจนกว่าจะปิดการขายได้ ! ฉากในหนังฉายภาพที่ Belfort ทำการขายหุ้น Penny ผ่านโทรศัพท์ เขาได้ใช้ 3 ขั้นตอนหลัก ๆ คือ เริ่มจากการทำให้ลูกค้าเชื่อใจ ไว้วางใจภายใน 4 วินาที จากนั้นลูกค้าจะเริ่มหยุดเพื่อฟัง จังหวะนั้นให้เรารีบพูดโน้มน้าว และแสดงทางลัดหรืออะไรก็ตามที่สามารถแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ ขั้นตอนสั้น ๆ นี่เองที่จะสร้างภาพให้ลูกค้ามองเราเป็นคนฉลาด เฉียบคม และซื่อตรง ซึ่งความเชื่อใจนี้ มีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจของลูกค้าในที่สุด

MP-SF-WST-900x500-2.jpg

3. สร้างแรงจูงใจกระตุ้นทีมขายอยู่เสมอ

ถ้าใครที่เคยดูหนังเรื่องนี้ คงรู้สึกว่าบรรยากาศและวัฒนธรรมภายในบริษัทมันช่างดูเหลือเชื่อซะเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นปาร์ตี้ สภาพเมาเหล้าเมายาของทั้งพนักงานและเจ้าของบริษัท แต่ที่ซ่อนอยู่ในมายาภายนอกเหล่านั้น Belfort ได้สร้างบรรยากาศแข่งขันที่เปี่ยมไปด้วยพลังขับเคลื่อนอย่างแยบยล Belfort จัดประชุม 2 ครั้งต่อวัน แบ่งปันข้อความสร้างแรงบันดาลใจและยังเสนอสิ่งจูงใจให้กับนักขายอย่างค่าคอมมิชชั่นให้กับ Top Salesman เป็นประจำ ซึ่งในโลกความเป็นจริง อาจจะไม่จำเป็นต้องบ้าระห่ำเหมือนตัวละครในเรื่องนี้เป๊ะ ๆ แต่ถ้าคุณเป็นระดับหัวหน้า อาจจะลองกำหนดเป้าหมายรายเดือน และแรงกระตุ้นให้กับทีมในแบบฉบับของคุณเอง

MP-SF-WST-900x500-3.jpg

4. เน้นการฝึกฝน

ในเรื่องแสดงให้เห็นเลยว่า การจะเป็นนักขายที่เก่ง ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย หรือเพราะเรียนจบสูง ๆ นะ Belfort ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนคนที่ไม่มีการศึกษา และดูเหมือนจะขาดคุณสมบัติพื้นฐานในโลกการทำงานทั่วไป ให้กลายเป็นเครื่องจักรขายหุ้นที่เก่งกาจ อีกประเด็นคือเรื่องของการ "จ้างคนที่ใช่" ไม่จำเป็นที่จะต้องมีประสบการณ์มากนัก แต่การดูแล ฝึกฝนพวกเขาให้ประสบความสำเร็จ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและสามารถสร้างรายได้มหาศาลให้กับองค์กรเลยทีเดียว

MP-SF-WST-900x500-6.jpg

5. โอบรับความทุกข์ยาก

อันนี้อาจจะไม่ใช่เทคนิคการขายซะทีเดียว แต่เป็นคุณสมบัติเชิงทัศนคติที่มีส่วนทำให้ Belfort กลายเป็นโบรกเกอร์ที่ประสบความสำเร็จมากคนนึงของโลก เพราะแม้ชีวิตเขาจะเคยล้มลุกคลุกคลาน บริษัทที่ทำอยู่ล้มละลาย กลายเป็นคนตกงาน และได้รับงานใหม่เป็นคนขายหุ้นเพนนีที่ไร้ซึ่งความหมาย แต่เขาก็น้อมรับวิกฤตินี้ เปลี่ยนมันเป็นโอกาส โดยใช้ความสามารถทั้งหมดที่มี ทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จได้

ขึ้นชื่อว่า "นักขาย" แน่นอนต้องพบเจอทั้งการขายที่สำเร็จและไม่สำเร็จ ตัว Belfort เองก็แสดงให้เห็นว่าความสำเร็จในระยะยาวไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาประสบทั้งความล้มเหลวและความสำเร็จก่อนที่จะก้าวไปสู่จุดสูงสุดในอาชีพการงานของเขาในวอลล์สตรีท จนกระทั้งบริษัทล้มละลายและติดคุก Belfort ได้นำความผิดพลาดในอดีตมาเป็นบทเรียนสู่ความสำเร็จอีกรูปแบบแทน

แมนพาวเวอร์กรุ๊ป เป็นกำลังใจให้นักขายและเซลส์ทุกคน เราหวังว่า 5 ข้อคิดสำหรับนักขายจากหนังดีกรีออสการ์เรื่องนี้ที่เราสรุปมาให้ได้อ่านกัน จะสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคน และสำหรับใครที่อยากจะก้าวมาเดินเส้นทางนักขาย หรือ ใครที่หาบุคลากรเซลส์มืออาชีพอยู่ สามารถปรึกษาแมนพาวเวอร์ได้ ที่นี่ เลยค่ะ