Growth Mindset สำคัญอย่างไรต่อการพัฒนาองค์กร ?
มีหลายตำรากล่าวไว้ว่า "Growth Mindset" คือสิ่งจำเป็นขององค์กรในยุคนี้ หากที่ไหนมีบุคลากร หรือพนักงานที่เต็มไปด้วย Growth Mindset องค์กรนั้นจะสามารถพัฒนาไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Growth Mindset คืออะไร ?
Growth Mindset มาจากงานวิจัยของ มาจากการวิจัยของ ดร. แครอล เอส. ดเว็ค (Carol S. Dweck) ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ผู้เขียนหนังสือ Mindset : The New Psychology of Success ซึ่งจากการวิจัย สามารถสรุปผลออกมาได้ว่า
มนุษย์เรามีกรอบความคิดอยู่ 2 ประเภท
1.กรอบความคิดแบบเติบโต (Growth Mindset) คือ รูปแบบความคิด หรือทัศนคติที่พร้อมพัฒนา และเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ เปรียบเสมือน "แก้วน้ำ" ที่ไม่เต็มแก้ว
2.กรอบความคิดแบบจำกัด (Fixed Mindset) คือรูปแบบความคิดที่จำกัดความสามารถตัวเองเท่าที่มี และเชื่อว่าไม่สามารถพัฒนาไปได้มากกว่านี้ เหมือนคนที่มี "พรสวรรค์" แต่ไม่มี "พรแสวง" นั่นเอง
คนที่มี Growth Mindset จะมีความเชื่อว่ามนุษย์เราสามารถพัฒนาได้เรื่อย ๆ ผ่านการเรียนรู้ ประสบการณ์ และความพยายาม เรียกให้เข้าใจง่าย ก็เหมือนคนที่มี "พรแสวง" ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อกระทำการใด จะไม่สนใจเรื่องของผลลัพธ์ ว่าจะออกมาสำเร็จ หรือล้มเหลว พวกเขาสามารถมองหาข้อดี หรือเรียนรู้จากข้อผิดพลาดได้เสมอ จะสังเกตได้ว่า คนที่มีกรอบความคิดแบบเติบโต (Growth Mindset) นั้น เมื่อถึงจุดที่พวกเขา "ล้ม" พวกเขาจะสามารถ "ลุก" ขึ้นมาได้ไว
แล้วเราจะสามารถสร้าง Growth Mindset อย่างไร ?
หลักการ4ข้อ ง่าย ๆ สำหรับคนที่ต้องการสร้างGrowth Mindsetให้กับตัวเอง หรือแม้กระทั่ง ฝ่ายบุคคล (HR)ที่ต้องการให้พนักงานมีGrowth Mindsetคือ เราต้องนำพาตัวเอง หรือพวกเขาออกจากกรอบเดิม ๆ4ข้อดังนี้
พื้นที่ที่คุ้นเคย (Comfort Zone)
ความเชื่อที่เป็นข้อจำกัด (Limiting Belief)
การยึดติดกับกรอบความคิดเดิม (Fixed Mindset)
ทัศนคติเชิงลบ (Negative Thinking)
การนำ Growth Mindset มาใช้ในองค์กร
ผู้ที่ทำให้กระแสGrowth Mindsetเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น มาจากการที่Satya NadellaนำหลักการGrowth Mindsetมาใช้หลังจากที่เขาได้รับตำแหน่งCEOคนใหม่ของMicrosoftซึ่งสิ่งแรกที่เขาคิดจะทำคือ"การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร"และแน่นอนGrowth Mindsetได้ถูกหยิบขึ้นมาใช้เป็นหัวใจหลักของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
Satyaกล่าวไว้ว่า"ไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ทุกอย่างสามารถเป็นไปได้เสมอ หากองค์กรมีวัฒนธรรมที่ รับฟัง เรียนรู้ และให้โอกาส และสิ่งเหล่านี้คือหน้าที่ของCEO"
จะเห็นได้ว่า บางครั้งหากต้องการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กร จะต้องเริ่มจากผู้บริหาร หัวหน้างาน หรือฝ่ายบุคคล (HR)เป็นผู้ปลูกฝังGrowth Mindsetให้พนักงาน ให้พวกเขาพร้อมรับมือกับงาน หรืออุปสรรคที่ท้าทาย รู้จักเรียนรู้จากข้อผิดพลาด พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และพัฒนาศักยภาพอยู่เสมอเพราะGrowth Mindsetไม่ได้หมายความเฉพาะกรอบความคิดของตนเองเท่านั้น แต่ยังหมายถึง ตัวเราเองก็ไม่ควรที่จะไปตีกรอบความคิดของใคร เช่นว่า"เขาทำได้แค่นี้นะ"หรือ"เขาไม่เหมาะสมกับงานชิ้นนี้หรอก"
การสร้างGrowth Mindsetให้พนักงาน
เมื่อองค์กรมีพนักงานที่มีGrowth Mindsetที่ดี ก็สามารถนำพามาสู่บรรยากาศที่ดีในการทำงาน และเมื่อทุกคนมีความสุขกับงาน เพื่อนร่วมงาน สภาพแวดล้อมต่าง ๆ แล้ว งานก็จะออกมามีประสิทธิภาพสูงสุด
จากผลการวิจัยของCarol S. Dweckบอกว่าลักษณะของพนักงานที่มี"Growth Mindset"ที่ดีจะมีลักษณะ :
47%มีแนวโน้มที่จะบอกว่าเพื่อนร่วมงานของเขาน่าเชื่อถือ
34%มีแนวโน้มที่จะรู้สึกถึงความภักดี และมุ่งมั่นจะทำเพื่อองค์กร
65%มีแนวโน้มที่จะบอกว่าบริษัทสนับสนุนการรับความเสี่ยง
49%มีแนวโน้มที่จะบอกว่าบริษัทส่งเสริมการพัฒนา
ดังนั้นสำหรับHRหรือหัวหน้าทีม หากคุณต้องการสร้างให้พนักงานของคุณมีGrowth Mindsetอย่างเต็มเปี่ยม ลองเริ่มจากการรับฟังความคิดเห็นของพนักงาน,เปิดพื้นที่ให้พนักงานได้มีโอกาสเสนอไอเดียใหม่ ๆ,ให้สวัสดิการเป็นเงินสำหรับเรียนเสริมความรู้พัฒนาตนเอง,จัดอบรม หรือเทรนนิ่งต่าง ๆ
หากพนักงานเห็นว่าเราให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ก็จะเกิดความรัก ผูกพันองค์กร และตอบแทนด้วยการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพค่ะ
หากองค์กรใดกำลังมองหาพนักงานที่มีGrowth Mindsetดี ๆ แบบนี้ ปรึกษาแมนพาวเวอร์ได้เลยนะคะเพราะเรา - แมนพาวเวอร์กรุ๊ป - เก่งในเรื่องหาคน ถนัดหางานค่ะ🙂
Source :Forbes , Harvard Business Review ,thegrowthmaster