8 วัน ที่ผ่านมา -

กฎหมายแรงงาน 2568 สิทธิ ค่าจ้าง วันหยุด สวัสดิการที่ควรรู้

พนักงานกำลังนั่งอ่านข้อมูลกฎหมายแรงงานปี 2568

ปี 2568 ได้มีการปรับปรุงและเพิ่มเติมกฎหมายแรงงานหลายฉบับเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ การคุ้มครองแรงงาน และมาตรฐานการใช้แรงงาน รวมถึงสิทธิการลาประเภทต่าง ๆ ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้รวบรวมสาระสำคัญของกฎหมายแรงงานฉบับล่าสุดมาไว้ที่นี่ เพื่อให้พนักงานทุกคนได้รู้ถึงสิทธิของตนเอง พร้อมกับช่วยให้ไม่ถูกเอาเปรียบในสถานที่ทำงานได้

ค่าจ้างและสิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐานตามกฎหมายแรงงาน 2568

มาดูกันว่า ค่าจ้างและสวัสดิการพื้นฐานที่พนักงานควรรู้ตามกฎหมายแรงงาน มีอะไรบ้าง

อัตราค่าจ้างขั้นต่ำปี 2568

ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศของคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ 13) โดยได้มีการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่แบ่งตามพื้นที่ โดยมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2568 ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • 400 บาทต่อวัน : ใน 4 จังหวัด และ 1 อำเภอ ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

  • 380 บาทต่อวัน: อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

  • 372 บาทต่อวัน : กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร

  • 359 บาทต่อวัน : จังหวัดนครราชสีมา

  • 358 บาทต่อวัน: จังหวัดสมุทรสงคราม

  • 357 บาทต่อวัน: จังหวัดขอนแก่น เชียงใหม่ (ยกเว้นอำเภอเมืองเชียงใหม่) ปราจีนบุรีพระนครศรีอยุธยา และสระบุรี

  • 356 บาทต่อวัน: จังหวัดลพบุรี

  • 355 บาทต่อวัน : จังหวัดนครนายก สุพรรณบุรี และหนองคาย

  • 354 บาทต่อวัน: จังหวัดกระบี่ และตราด

  • 352 บาทต่อวัน: จังหวัดกาญจนบุรี จันทบุรี เชียงราย ตาก นครพนม บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ พังงา พิษณุโลก มุกดาหาร สกลนคร สงขลา (ยกเว้นอำเภอหาดใหญ่) สระแก้ว สุราษฎร์ธานี (ยกเว้นอำเภอเกาะสมุย) และอุบลราชธานี

  • 351 บาทต่อวัน: จังหวัดชุมพร เพชรบุรี และสุรินทร์

  • 350 บาทต่อวัน: จังหวัดนครสวรรค์ ยโสธร และลำพูน

  • 349 บาทต่อวัน: จังหวัดกาฬสินธุ์ นครศรีธรรมราช บึงกาฬ เพชรบูรณ์ และร้อยเอ็ด

  • 348 บาทต่อวัน: จังหวัดชัยนาท ชัยภูมิ พัทลุง สิงห์บุรี และอ่างทอง

  • 347 บาทต่อวัน: จังหวัดกำแพงเพชร พิจิตร มหาสารคาม แม่ฮ่องสอน ระนอง ราชบุรี ลำปาง เลยศรีสะเกษ สตูล สุโขทัย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี

  • 345 บาทต่อวัน: จังหวัดตรัง น่าน พะเยา และแพร่

  • 337 บาทต่อวัน: จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และยะลา

สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ที่ลูกจ้างพึงได้รับ

นอกจากค่าจ้างขั้นต่ำแล้ว กฎหมายแรงงานยังกำหนดให้นายจ้างต้องจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้แก่ลูกจ้าง เช่น

  • ค่าล่วงเวลา : ต้องจ่ายในอัตราไม่น้อยกว่า 1.5 เท่าของค่าจ้างปกติ สำหรับการทำงานล่วงเวลาในวันทำงานปกติ และไม่น้อยกว่า 3 เท่าของค่าจ้างปกติ สำหรับการทำงานล่วงเวลาในวันหยุด

  • วันหยุดตามประเพณี: ตามกฎหมายแรงงาน ลูกจ้างมีสิทธิได้รับวันหยุดตามประเพณีไม่น้อยกว่า 13 วันต่อปี โดยได้รับค่าจ้าง

  • วันหยุดพักผ่อนประจำปี : ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันมาครบ 1 ปี มีสิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีไม่น้อยกว่า 6 วันทำงาน โดยได้รับค่าจ้าง

  • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ : เป็นสวัสดิการที่นายจ้างอาจจัดให้โดยความสมัครใจ โดยนายจ้างและลูกจ้างจะจ่ายเงินสมทบในอัตราที่ตกลงกัน

ในปี 2568 มีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลภายใต้ระบบประกันสังคม โดยได้เพิ่มวงเงินค่ารักษาพยาบาลในหลายกรณี และเพิ่มรายการยาในบัญชียาหลักให้ครอบคลุมมากขึ้น


เวลาทํางานตามกฎหมายแรงงาน

ตามกฎหมายแรงงานในเรื่องเวลาทํางาน มีกฎเกณฑ์ที่สำคัญดังนี้

  • ระยะเวลาทำงานปกติต้องไม่เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน หรือตามที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกัน แต่ต้องไม่เกิน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

  • นายจ้างและลูกจ้างอาจตกลงกันล่วงหน้าให้มีเวลาพักน้อยกว่าครั้งละ 1 ชั่วโมงได้ แต่ต้องไม่น้อยกว่าครั้งละ 20 นาที และเมื่อรวมแล้วต้องไม่น้อยกว่าวันละ 1 ชั่วโมง


การคุ้มครองการจ้างงานและการเลิกจ้าง

สัญญาจ้างและข้อตกลงในการทำงาน

  • ข้อจำกัดในการทำสัญญาจ้างชั่วคราว : กำหนดให้การจ้างงานชั่วคราวต้องมีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดที่แน่นอน และต้องเป็นงานที่มีลักษณะชั่วคราวอย่างแท้จริง

การเลิกจ้างและค่าชดเชย

กรณีที่มีการเลิกจ้าง กฎหมายแรงงานได้กำหนดเงื่อนไขและอัตราค่าชดเชยไว้ดังนี้

  • ค่าชดเชยกรณีเลิกจ้าง 

    • ลูกจ้างที่ทำงานครบ 120 วัน แต่ไม่ครบ 1 ปี : ค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้าง 30 วัน

    • ลูกจ้างที่ทำงานครบ 1 ปี แต่ไม่ครบ 3 ปี : ค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้าง 90 วัน

    • ลูกจ้างที่ทำงานครบ 3 ปี แต่ไม่ครบ 6 ปี : ค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้าง 180 วัน

    • ลูกจ้างที่ทำงานครบ 6 ปี แต่ไม่ครบ 10 ปี : ค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้าง 240 วัน

    • ลูกจ้างที่ทำงานครบ 10 ปี แต่ไม่ครบ 20 ปี : ค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้าง 300 วัน

    • ลูกจ้างที่ทำงานครบ 20 ปีขึ้นไป : ค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้าง 400 วัน

  • การบอกเลิกจ้าง: นายจ้างต้องแจ้งการเลิกจ้างให้ลูกจ้างทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 1 รอบการจ่ายค่าจ้าง หากไม่แจ้งล่วงหน้า ต้องจ่ายค่าชดเชยแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า

  • ข้อยกเว้นในการจ่ายค่าชดเชย : นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยในกรณีเลิกจ้าง หากลูกจ้างกระทำความผิดร้ายแรง เช่น ทุจริตต่อหน้าที่ จงใจทำให้นายจ้างเสียหาย หรือประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง


สิทธิในการลาประเภทต่าง ๆ

การลาป่วย

  • ลูกจ้างมีสิทธิลาป่วยได้เท่าที่ป่วยจริง โดยได้รับค่าจ้างไม่เกิน 30 วันทำงานต่อปี นายจ้างสามารถขอใบรับรองแพทย์ได้ในกรณีที่ลูกจ้างลาป่วยตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป

การลาคลอด

  • ลูกจ้างหญิงมีสิทธิลาคลอดได้ 98 วัน โดยได้รับค่าจ้างไม่เกิน 45 วัน ส่วนที่เหลือจะได้รับเงินสงเคราะห์จากประกันสังคมในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง

การลากิจ

ลูกจ้างมีสิทธิลากิจเพื่อกิจธุระอันจำเป็นตามข้อบังคับการทำงานที่นายจ้างกำหนด โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 5-10 วันต่อปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละองค์กร

การลาไปทำหมัน

ลูกจ้างสามารถลาหยุดเพื่อไปทำหมันได้ตามระยะเวลาที่แพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งกำหนด และออกใบรับรองแพทย์ โดยลูกจ้างยังมีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันลานั้น

การลาไปรับราชการทหาร

ลูกจ้างสามารถลาเพื่อไปรับราชการทหารได้ โดยจะได้รับค่าจ้างตลอดเวลาที่ลา สูงสุดไม่เกิน 60 วันต่อปี


การใช้แรงงาน

ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานเรื่องการใช้แรงงาน มีหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

การใช้แรงงานหญิง

  • ห้ามลูกจ้างหญิงที่มีครรภ์ทำงานในช่วงเวลา 22:00 - 06:00 น. รวมถึงการทำงานล่วงเวลา หรือทำงานในวันหยุด

  • ห้ามแรงงานหญิงทำงานในที่เสี่ยงอันตราย เช่น งานในเหมืองแร่ งานก่อสร้างที่ต้องทำใต้ดิน ใต้น้ำ ในถ้ำ ในอุโมงค์ ในปล่องภูเขา หรืองานที่ต้องทำบนนั่งร้านสูงกว่าพื้น 10 เมตรขึ้นไป รวมถึงงานขนส่งวัตถุระเบิด วัตถุไวไฟ

การใช้แรงงานเด็ก

  • ห้ามจ้างเด็กอายุที่ต่ำกว่า 15 ปี มาเป็นลูกจ้าง

  • ลูกจ้างเด็กมีสิทธิฝึกอบรม โดยจะได้รับค่าจ้าง 30 วัน

  • กรณีจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี มาเป็นลูกจ้าง นายจ้างต้องแจ้งต่อพนักงานตรวจแรงงาน

  • ห้ามไม่ให้นายจ้างใช้ลูกจ้างเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานในช่วงเวลา 22:00 - 06:00 น.

  • ห้ามไม่ให้นายจ้างใช้ลูกจ้างเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานล่วงเวลา

  • ห้ามไม่ให้นายจ้างให้ลูกจ้างเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานที่เสี่ยงอันตราย

พนักงานกำลังทำงาน ตามข้อกำหนดกฎหมายแรงงานที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2568

หากคุณเป็นพนักงานที่กำลังค้นหาโอกาสใหม่ในการทำงาน และอยากได้งานที่มั่นคงในองค์กรที่ปฏิบัติตามกฎหมายและเคารพสิทธิพนักงาน แนะนำให้มาฝากประวัติกับ Manpower เว็บสมัครงาน ที่จัดหาคนและหางานระดับโลก ที่พร้อมเป็นสะพานเชื่อมระหว่างคุณกับบริษัทชั้นนำที่ให้ความสำคัญกับสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายแรงงาน ด้วยประสบการณ์อันยาวนานกว่า 70 ปี พร้อมเครือข่ายที่ครอบคลุมกว่า 75 ประเทศทั่วโลก และ 8 สำนักงานในประเทศไทย เรามั่นใจว่าจะช่วยให้คุณค้นหางานที่ตอบโจทย์ความต้องการและช่วยเติมเต็มศักยภาพของคุณได้อย่างแท้จริง หากสนใจ สามารถมาฝากประวัติไว้กับเราได้เลยวันนี้

ข้อมูลอ้างอิง

  1. สิทธิตามกฎหมายแรงงาน. สืบค้นเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 จาก https://www.mol.go.th/employee/สิทธิตามกฎหมายแรงงาน.

  2. มีผล 1 ม.ค.2568 ราชกิจจาฯ ประกาศค่าจ้างขั้นต่ำ 337-400 บาท. สืบค้นเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 จาก https://www.thaipbs.or.th/news/content/347764.

  3. เปิดอัตราค่าแรงขั้นต่ำ ปี 2568 ครบทั้ง 77 จังหวัด มีผลบังคับใช้ 1 ม.ค. 2568. สืบค้นเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 จาก https://thestandard.co/minimum-wage-rates-thailand-2568/.