รู้ตัวนะว่าทำงานหนักไป แต่พอถึงเวลาพักก็หยุดคิดไม่ได้ซักที.. นี่เรากำลังเสพติดการทำงานหรือเปล่า?
อาการแบบนี้ เรียกว่า Productivity Shame ซึ่งจะมีองค์ประกอบอยู่ 2 อย่าง คือ
รู้สึกว่าทำงานมากเท่าไหร่ก็ไม่พอ ไม่ว่าจะทำงานกี่ชั่วโมง หรือทำงานเสร็จไปกี่ชิ้น เราก็ยังรู้สึกว่ามีบรรยากาศแห่งความละอายใจลอยรอบตัวอยู่ดี
Productivity Shame คือการที่เรารู้สึกว่าเราไม่ควรทำสิ่งที่ "ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์" เราจะรู้สึกผิดเวลาเราใช้เวลาไปกับงานอดิเรก ดูหนัง ฟังเพลง หรือกระทั่งการนอนพักผ่อน
ความสำเร็จของคนอื่นๆ ความกดดันจากสังคม และบางครั้งค่านิยม ‘ทำงานหนัก=เป็นสิ่งที่ดีงาม’ ทำให้เราเผลอเสพติดการทำงานหามรุ่งหามค่ำ และตกอยู่ในภาวะ Toxic Productivity โดยไม่รู้ตัว
อาการเหล่านี้บั่นทอนสภาวะจิตใจเรามากกว่าที่หลายคนคิด การที่เราไม่สามารถปิดสวิตช์โหมดทำงานของตัวเองได้ในยามไพักผ่อน จะส่งผลให้เราเครียด ทำงานหนักเกินไป จนสุดท้ายอาจจะนำไปสู่ภาวะหมดไฟ (Burnout) นั่นเอง
สิ่งหนึ่งที่อยากให้ทุกคนหันกลับมาเตือนตัวเองคือ "ให้ใจดีกับตัวเองบ้าง" อย่ากดดันตัวเองมากจนเกินไป.. เพราะการทำงานที่จะออกมาให้ผลดี ก็ย่อมเกิดมาจากพลังที่ดี เติมเชื้อไฟที่ดีให้กับตัวเองเช่นกัน
ให้เวลาตัวเองพักบ้าง และอย่ารู้สึกผิดกับตัวเองมากจนเกินไป เพราะไม่มีใครสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชม.
ในมุมขององค์กรเอง หากเราสร้างวัฒนธรรมองค์กร ที่ให้เกียรติพนักงาน เคารพในชีวิตส่วนตัวของพนักงาน พวกเขาก็จะรู้สึกรักองค์กร มีใจที่จะทำงาน สร้างสรรค์ผลงานดี ๆ นำพาให้องค์กรขับเคลื่อน และประสบความสำเร็จไปพร้อม ๆ กัน